นั่นจึงทำให้กระแสของวงการของผู้ผลิตพลังงานน้ำมัน มีการแข่งขันและพัฒนานวัตกรรมของน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา ซึ่งสอดคล้องกับกระแสการใช้พลังงานที่เปลี่ยนไป ทั้งเรื่องของสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น ความประหยัด และการรักษาสิ่งแวดล้อม

บางจาก เป็นหนึ่งในบริษัทที่ไม่เคยหยุดพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ จึงได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์แก๊สโซฮอล์ S EVO FAMILY ที่ยกระดับให้ E20 S EVO เป็นน้ำมันคุณภาพพรีเมียมที่มีคุณสมบัติดีที่สุดในตลาดเป็นเจ้าแรก แต่ยังคงราคาเดิมไว้ รวมถึงแก๊สโซฮอล์ชนิดอื่นๆ ทั้งหมดของบางจาก ก็ได้นำนวัตกรรมใหม่นี้มาใช้ด้วยเช่นกัน

จะเลี้ยวเข้าปั๊มที ใครๆ ก็ต้องคิดหนัก

แม้ว่าทุกวันนี้สถานีบริการน้ำมันหรือปั๊มน้ำมันจะมีให้บริการอยู่แทบทุกหัวมุมถนน แต่เมื่อน้ำมันหมด ก็ใช่ว่าคนใช้รถทุกคนอยากจะเลี้ยวเข้าปั๊มไหนก็ได้ ต้องมีการตัดสินใจตั้งแต่เรื่องความน่าเชื่อถือแบรนด์ การบริการ และที่สำคัญคือประสิทธิภาพของน้ำมันที่เติม ในราคาที่จ่ายเท่าๆ กัน แต่ปั๊มไหนจะคุ้มค่ากว่า ทั้งเรื่องของสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น ความประหยัด และการรักษาสิ่งแวดล้อม ปัจจัยเหล่านี้สะท้อนถึงการแข่งขันที่มากขึ้น เพราะในยุคสมัยนี้เรื่องพลังงานน้ำมันเป็นสิ่งที่คนใช้รถให้ความสำคัญ ทำให้แบรนด์น้ำมันเองก็ต้องเร่งพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบสนองกับเทรนด์ของผู้บริโภคด้วย

บางจากจึงไม่หยุดพัฒนา

จากความคาดหวังของคนใช้รถที่เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ ‘บางจาก’ หนึ่งในแบรนด์ผู้ผลิตน้ำมันจึงได้ตอบสนองความต้องการ ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยี Green S Revolution ที่เพิ่มการผสม 2 สารเพิ่มคุณภาพให้อยู่ในน้ำมัน E20 S EVO ทั้ง S Dual Purifier สารที่ช่วยชะล้างทำความสะอาดเครื่องยนต์ได้ดีกว่าเดิม และสารลดแรงเสียดทาน S Turbo Modifier จากการทดสอบ E20 S EVO กับรถยนต์รุ่นใหม่ระบบ GDI (Gasoline Direct Injection) ช่วยให้ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น โดยมีคุณสมบัติ 4 อย่างต่อไปนี้

• ทำความสะอาดหัวฉีดเครื่องยนต์ระบบ GDI ได้ 100% ทำให้เผาไหม้ได้อย่างสมบูรณ์ ป้องกันหัวฉีดอุดตัน ทำให้เครื่องยนต์เดินลื่น  รถจึงวิ่งได้แรงขึ้น
• อัตราเร่งมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น แรงม้าและแรงบิดสูงขึ้น จึงเร่งแรงได้ในทุกสถานการณ์ 
• ป้องกันสนิมและการกัดกร่อนได้ใน A Rating ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ให้ยาวนานขึ้น
• ได้รับมาตรฐาน Euro 5 เป็นรายแรกในเอเชีย ซึ่งมีค่ากำมะถันต่ำกว่า 10 PPM ดีต่อสิ่งแวดล้อม และยังลดมลภาวะจากการเผาไหม้ โดยลดคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ 14% และลดไนโตรเจนออกไซด์ได้ถึง 50% ซึ่งเป็นต้นเหตุของภาวะโลกร้อนและฝนกรด
  ความพิเศษของ E20 S EVO คือสามารถใช้ได้ดีกับเครื่องยนต์ระบบ GDI (Gasoline Direct Injection – ฉีดน้ำมันตรงเข้าห้องเผาไหม้) ซึ่งมีในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ อีกทั้งยังใช้ได้ดีกับเครื่องยนต์ระบบ PFI (Port Fuel Injection – เครื่องฉีดพอร์ทธรรมดา) รุ่นเก่าได้เช่นกัน
   
  ดีกว่าในราคาเท่าเดิม
  สิ่งที่ทำให้คนใช้รถต้องประทับใจกับน้ำมัน E20 S EVO นอกจากประสิทธิภาพที่มากขึ้นแล้ว คือเรื่องของราคาที่เท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง และยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์กลุ่มแก๊สโซฮอล์ S EVO FAMILY ทั้ง แก๊สโซฮอล์ 91, 95 และ E85 ให้กลายเป็นน้ำมันคุณภาพพรีเมียมไปพร้อมๆ กันอีกด้วย สร้างแรงจูงใจให้คนใช้รถรู้สึกคุ้มค่ามากที่สุด และเปลี่ยนมุมมองต่อการเลือกเติมน้ำมันให้ไม่เหมือนเดิม
  การพัฒนา E20 S EVO ของบางจาก เรียกได้ว่าเป็นการพลิกวงการน้ำมันและเชื้อเพลิงให้ยกระดับสูงขึ้นเป็นเจ้าแรก ด้วยการนำนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยยังคงราคาเดิมไว้ ตอบสนองกับเทรนด์การใช้พลังงานของคนใช้รถที่กำลังเปลี่ยนไป

https://thematter.co/brandedcontent/bangchak-e20-s-evo-opening/116741