btn-close

บทความ

arrow-prevย้อนกลับ
บางจากแก๊สโซฮอลล์ E20 S EVO นวัตกรรมน้ำมันยุคใหม่จากบางจาก

HIGHLIGHTS

เราอยู่ในยุคแห่ง Green Consumer ผู้บริโภครุ่นใหม่มีแนวโน้มเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และแบรนด์ที่รักษ์โลกกันมากขึ้น รวมถึงการใช้พลังงานสะอาด กลุ่มธุรกิจที่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ใช้พลังงานสะอาดจึงตอบโจทย์คนยุคนี้

บางจาก คือหนึ่งในบริษัทที่มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีคุณภาพมอบให้แก่ผู้บริโภค ภายใต้วิสัยทัศน์ Evolving Greenovation ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม จึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มแก๊สโซฮอล์ S EVO FAMILY ได้แก่ แก๊สโซฮอล์ 91, 95, E85 และ E20 นวัตกรรมของระบบน้ำมันก้าวไกลกว่าน้ำมันในท้องตลาด มุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มสมรรถนะให้เครื่องยนต์ ประหยัด และไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อระบบนิเวศในระยะยาว

คาดการณ์จากความต้องการในตลาด E20 จะเป็นน้ำมันพื้นฐานของประเทศไทย สอดคล้องกับนโยบายกระทรวงพลังงาน บางจากจึงพัฒนาน้ำมันบางจากแก๊สโซฮอล์ E20 S EVO เพิ่มสารเพิ่มคุณภาพ S Dual Purifier และ S Turbo Modifier ที่ทำความสะอาดหัวฉีดได้ดีเยี่ยม เครื่องยนต์จึงเผาไหม้ได้สมบูรณ์ ทำให้เครื่องยนต์เดินลื่น เพื่อให้ได้น้ำมันที่ ‘แรงสุดพลังสะอาด รู้สึกได้ตั้งแต่ถังแรก’ และได้รับการรองรับมาตรฐาน EURO5 เป็นรายแรกในเอเชีย

ประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมถูกพูดถึงมานาน แต่โลกก็ยังสาหัสและดูเหมือนจะป่วยขึ้นทุกปี ไม่แปลกที่คนยุคใหม่จะลุกขึ้นมาเรียกร้องโลกใบใหม่ หาใช่โลกใบเดิมที่ผุกร่อนจากน้ำมือของคนรุ่นเก่า เห็นได้จากเทรนด์เรื่องสิ่งแวดล้อมที่ถูกพูดถึงมากขึ้น จนกลายเป็นยุคแห่ง Green Consumer ผู้บริโภครุ่นใหม่มีแนวโน้มเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และแบรนด์ที่รักษ์โลกกันมากขึ้น

 

พฤติกรรมผู้บริโภคทุกภูมิภาครวมทั้งเอเชียปี 2020 มองหาแบรนด์ที่สร้างประโยชน์ให้กับสิ่งแวดล้อม ดังนั้นแบรนด์ไหนที่สร้างผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์เทรนด์นี้ได้ ผู้บริโภคก็ยินดีที่จะจ่าย เพื่อจะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ที่น่าสนใจคือ เทรนด์รักษ์โลกยุคนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของการใช้น้ำอย่างรู้ค่า ลด ละ เลิก การใช้พลาสติก ประหยัดไฟ แต่ยังเทความสนใจไปถึงเรื่องการใช้พลังงานสะอาด กลุ่มธุรกิจที่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ใช้พลังงานสะอาดจึงตอบโจทย์

 

เห็นได้จากอุตสาหกรรมรถยนต์ที่พัฒนานวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ECO Car หรือรถยนต์พลังงานไฮโดรเจน กันอย่างคึกคัก วงการของผู้ผลิตพลังงานน้ำมันก็แข่งขันกันพัฒนานวัตกรรมกันอย่างดุเดือด เพื่อให้สอดคล้องกับกระแสการใช้พลังงานที่เปลี่ยนไป ทั้งเรื่องของสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น ความประหยัด และการรักษาสิ่งแวดล้อม 

 

 พันธกิจของบางจาก ธุรกิจต้องเคียงข้างไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมภายใต้วิสัยทัศน์ Evolving Greenovation พูดถึงผู้นำนวัตกรรมพลังงานน้ำมันที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม บางจากคือหนึ่งในบริษัทที่มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมของระบบน้ำมันก้าวไกลว่าน้ำมันในท้องตลาด มุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มสมรรถนะให้เครื่องยนต์ ประหยัด และต้องรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อระบบนิเวศในระยะยาว

 

 ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เผยว่า “ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา บางจากให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีคุณภาพมอบให้แก่ผู้บริโภค ภายใต้วิสัยทัศน์ Evolving Greenovation ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจึงได้ใช้นวัตกรรมพัฒนายกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ไปพร้อมกับการดูแลสิ่งแวดล้อม และสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค”

 

ย้อนรอยนวัตกรรมพลังงานสะอาดภายใต้วิสัยทัศน์ Evolving Greenovation ของ บางจาก

ปี 2015 Bangchak E20S น้ำมัน E20S EURO5 รายแรกของเอเชีย

ปี 2016 บางจากปรับแก๊สโซฮอล์ทั้งหมดไปสู่ Green S Revolution เทคโนโลยี DGI ที่แรงกว่า สะอาดกว่า

ปี 2017 พัฒนา Hi-Premium Diesel S นวัตกรรมพรีเมียมดีเซลอนาคต

ปี 2018 เปิดตัวผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่อง FURiO ที่มี API สูงที่สุด สู่การเป็นผู้นำขีดสุดเทคโนโลยีสนามแข่งสู่รถคุณ

ปี 2019 ร่วมสนับสนุนนโยบายภาครัฐ ผลักดัน B20S น้ำมันสะอาดและแรงยิ่งขึ้น

ปี 2020 เปิดตัวผลิตภัณฑ์ S EVO FAMILY ได้แก่ แก๊สโซฮอล์ 91, 95, E85 และ E20 S EVO น้ำมันคุณภาพพรีเมียมที่มีคุณสมบัติดีที่สุด ทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และได้รับการรองรับมาตรฐาน EURO5 รายเดียวในประเทศไทย

 

 จากการพัฒนานวัตกรรมน้ำมันดีเซลพรีเมียมที่ดีที่สุดและน้ำมันหล่อลื่นที่ดีที่สุด สู่ความท้าทายครั้งใหม่ เมื่อบางจากเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในกลุ่มแก๊สโซฮอล์ S EVO FAMILY ได้แก่ แก๊สโซฮอล์ 91, 95, E85 และ E20 โดยพระเอกของกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้ต้องยกให้กับ E20 S EVO น้ำมันคุณภาพพรีเมียมที่มีคุณสมบัติดีที่สุดในตลาด ทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า

 

“น่าจะเป็นรายเดียวที่เคลมได้ว่าห้องเผาไหม้สะอาดขึ้น 100% พิสูจน์จากห้องทดลอง ในขณะที่อัตราการเร่งเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพ E20 สูตรเดิม เพิ่มอัตราเร่งสูงขึ้น 56% ด้วยการทดลองบนสายพาน และเรายังเปรียบเทียบกับ E95 ในท้องตลาด พบว่า E20 S EVO รีดแรงม้าจากรถได้สูงที่สุด และสิ่งที่ไม่เคยลืมคือตัวตนของบางจากคือเป็น E20 S EVO ที่มีเทคโนโลยี Green S EVO และได้รับการรองรับมาตรฐาน EURO5 รายเดียวในประเทศไทย” ชัยวัฒน์กล่าว 

 

หากดูอัตราการเติบโตของ E20 ในตลาด ตามความต้องการของรถยนต์รุ่นใหม่ๆ คาดการณ์ว่าน้ำมัน E20 จะเป็นน้ำมันพื้นฐานของประเทศไทยในอนาคต สอดคล้องกับนโยบายกระทรวงพลังงาน

 

 สิ่งที่ต้องมองควบคู่กันไปคือ เทรนด์รถยนต์ในอนาคต ชัยวัฒน์เผยว่า นับตั้งแต่ปี 2015 บางจากเป็นรายแรกที่ใช้เทคโนโลยี GDI (Gasoline Direct Injection ฉีดน้ำมันตรงเข้าห้องเผาไหม้) แนวโน้มอีก 5 ปีข้างหน้า รถยนต์รุ่นใหม่ๆ จะเปลี่ยนมาเป็นเครื่องยนต์ระบบ GDI ทั้งหมด บางจากจึงพัฒนา E20 S EVO ให้รองรับเครื่องยนต์ระบบ GDI และยังใช้ได้ดีกับรถเบนซินทุกรุ่น ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่

 

  จุดกำเนิดความ ‘แรงสุดพลัง รู้สึกได้ตั้งแต่ถังแรก’ ของน้ำมันบางจากแก๊สโซฮอล์ E20 S EVO

น้ำมันบางจากแก๊สโซฮอล์ E20 S EVO เพิ่มสาร เพิ่มคุณภาพ S Dual Purifier และ S Turbo Modifier ที่ทำความสะอาดหัวฉีดได้ดีเยี่ยม เครื่องยนต์จึงเผาไหม้ได้สมบูรณ์ ทำให้เครื่องยนต์เดินลื่น แรงสุด พลังสะอาด เมื่อเทียบกับน้ำมันตามท้องตลาดทั่วไปจะเติมสารเพิ่มคุณภาพเพียงตัวใดตัวหนึ่ง แต่ E20 S EVO เติมสารทั้ง 2 ชนิด เพื่อให้ได้น้ำมันที่ ‘แรงสุดพลัง รู้สึกได้ตั้งแต่ถังแรก’

 

 คุณสมบัติที่โดดเด่นจากการทดสอบ E20 S EVO กับรถยนต์รุ่นใหม่ระบบ GDI พบว่า

ทำความสะอาดหัวฉีดเครื่องยนต์ระบบ GDI ได้ 100 % ทำให้เผาไหม้ได้อย่างสมบูรณ์ ป้องกันหัวฉีดอุดตัน รถจึงวิ่งได้แรงขึ้น

อัตราเร่งมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นจากเดิม 56.7% เป็นผลจากการที่แรงม้าและแรงบิดสูงขึ้น จึงเร่งแรงได้ในทุกสถานการณ์

ป้องกันสนิมและการกัดกร่อนได้ในระดับ A Rating ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ให้ยาวนานขึ้น

E20 S EVO ยังได้รับมาตรฐาน EURO5 เป็นรายแรกในเอเชีย ซึ่งมีค่ากำมะถันต่ำกว่า 10 PPM ดีต่อสิ่งแวดล้อม และยังลดมลภาวะจากการเผาไหม้ โดยลดคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ 14% และลดไนโตรเจนออกไซด์ได้ถึง 50% ซึ่งเป็นต้นเหตุของภาวะโลกร้อนและฝนกรด

 และอย่างที่บอกไป E20 S EVO พัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับเครื่องยนต์ระบบ GDI ซึ่งมีในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ และยังใช้ได้ดีกับเครื่องยนต์ระบบ PFI (Port Fuel Injection เครื่องฉีดพอร์ตธรรมดา) รุ่นเก่าได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น

Ford ทุกรุ่น ตั้งแต่ปี 2005

Honda / Mazda / Mitsubishi / Nissan / Toyota ทุกรุ่น ตั้งแต่ปี 2008

Proton ทุกรุ่น ตั้งแต่ปี 2010

MG ทุกรุ่น ตั้งแต่ปี 2014

Mercedes-Benz (C-Class, E-Class) ตั้งแต่ปี 2009

BMW ตั้งแต่ปี 2008 (ตรวจสอบรุ่นรถกับศูนย์บริการ)

MINI ตั้งแต่ปี 2014 (ตรวจสอบรุ่นรถกับศูนย์บริการ)

Volvo ตั้งแต่ปี 2008 (ตรวจสอบรุ่นรถกับศูนย์บริการ)

 

หรือเช็กว่ารถยนต์ของคุณเติมน้ำมันอะไร ต้องการน้ำมันออกเทนเท่าไร เช่น รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 หรือไม่ และสำหรับน้ำมันที่มีค่าออกเทน 91 หรือ 95 ก็สามารถใช้ได้กับรถที่รองรับน้ำมัน E20 เนื่องจาก E20 มีค่าออกเทนสูงกว่า 95 ก็สามารถเติม E20 S EVO ได้เช่นกัน

 

  ของแบบนี้ต้องลองถึงจะรู้ว่า ‘แรงสุดพลังสะอาด รู้สึกได้ตั้งแต่ถังแรก’ จริงหรือไม่ ที่แน่ๆ นอกจากประสิทธิภาพที่พัฒนาได้ดียิ่งขึ้นในกลุ่ม E20 S EVO ทั้งกลุ่มแก๊สโซฮอล์ S EVO FAMILY ทั้งแก๊สโซฮอล์ 91, 95 และ E85 ให้กลายเป็นน้ำมันคุณภาพพรีเมียม ยังเปิดตัวมาในราคาเท่าเดิม ทว่า สร้างการเปลี่ยนแปลงให้สิ่งแวดล้อมรอบตัวได้ทุกครั้งที่สตาร์ทรถอย่างแน่นอน

 

พิสูจน์ความ ‘แรงสุดพลังสะอาด รู้สึกได้ตั้งแต่ถังแรก’ ได้ที่ปั๊มบางจาก 1,200 สาขาทั่วประเทศ

https://thestandard.co/bangchak-gasohol-e20-s/

SHARE  Share Facebook Share Line